ทำไมต้องจัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ | Warehouse Management

Views : 5130
ทำไมต้องจัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ | Warehouse Management

ทำไมต้องจัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ | Warehouse Management

ทำไมเราต้องจัดการคลังสินค้าให้เป็นระบบ

คลังสินค้า เป็นพื้นที่ที่ถูกวางแผนมาเพื่อจัดเก็บ และเคลื่อนย้าย สินค้าหรือวัตถุดิบ และดำเนินไปขั้นต่อไป ซึ่งสินค้าภายในคลังสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท 1. วัตถุดิบ (Material) 2. สินค้าสำเร็จรูป ดังนี้

ประเภทของคลังสินค้า

1. คลังสินค้าวัตถุดิบ (Material Warehouse):

  • ใช้สำหรับเก็บวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น วัตถุดิบทางการเกษตร แร่ธาตุ ชิ้นส่วนอะไหล่ บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ
  • มักมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และแสงสว่าง เพื่อรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ
  • มีระบบการจัดเก็บและจัดการสินค้าที่รัดกุม เพื่อป้องกันความสูญเสีย การโจรกรรม และอุบัติเหตุ
  • ตัวอย่าง:
    • คลังสินค้าเก็บเมล็ดข้าว
    • คลังสินค้าเก็บส่วนผสมอาหาร
    • คลังสินค้าเก็บชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องยนต์

2. คลังสินค้าสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods Warehouse):

  • ใช้สำหรับเก็บสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้า
  • มักมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และฝุ่นละออง เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า
  • มีระบบการจัดเก็บและจัดการสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถหยิบสินค้าได้รวดเร็วและถูกต้อง
  • ตัวอย่าง:
    • คลังสินค้าเก็บม้วนฉลากสินค้า
    • คลังสินค้าเก็บผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
    • คลังสินค้าเก็บบานประตู


ระบบบริการจัดการคลิปสินค้านั้น เป็นการจัดการรับ จัดเก็บ ลดการเคลื่อนย้ายวัตถุให้ได้น้อยที่สุด ส่งสินค้าไปยังการจัดจำหน่ายอย่างเป็นระบบ สะดวกต่อการทำงาน ป้องกันการสูญหาย ลดการทำงานซ้ำซ้อน สามารถบริหารเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้ทุกตารางวา เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

 

การจัดการสินค้าคงคลังอย่างเป็นระบบใน Dynamics 365 Business Central เป็นสิ่งจำเป็นด้วยเหตุผลหลายประการ

 

การมองเห็นแบบเรียลไทม์

Business Central ให้การมองเห็นระดับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณติดตามสต็อกคงเหลือตามคำสั่งซื้อและระหว่างการขนส่งได้อย่างแม่นยำ การเปิดเผยนี้ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลเกี่ยวกับการเติมสินค้าคงคลัง การปันส่วน และการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ

การปฏิบัติตามคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดการสินค้าคงคลังอย่างเป็นระบบใน Business Central ช่วยปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการทำให้มั่นใจว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเมื่อจำเป็น คุณสามารถปฏิบัติตามคำสั่งซื้อของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ปรับปรุงความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า

 

การปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตรวจสอบ

การจัดการสินค้าคงคลังอย่างเป็นระบบใน Business Central ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและมาตรฐานการตรวจสอบภายใน ด้วยการรักษาบันทึกสินค้าคงคลังที่ถูกต้องและประวัติการทำธุรกรรม คุณสามารถแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบและขั้นตอนการควบคุมภายใน

 

ระดับสินค้าคงคลังที่ปรับให้เหมาะสม

คุณสมบัติการจัดการสินค้าคงคลังของ Business Central ช่วยให้คุณสามารถกำหนดระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสมที่สุดตามการคาดการณ์ความต้องการ ระยะเวลาดำเนินการ และเป้าหมายระดับการบริการ ด้วยการรักษาปริมาณสต็อกที่เหมาะสม คุณสามารถลดต้นทุนการบรรทุกในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการสต็อกสินค้าและการสูญเสียยอดขาย

 

การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง

Business Central มอบความสามารถในการประเมินมูลค่าสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถประเมินมูลค่าสินค้าคงคลังของคุณได้อย่างแม่นยำโดยใช้วิธีการคิดต้นทุนต่างๆ เช่น FIFO, LIFO หรือค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการรายงานทางการเงินที่ถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชี

 

โดยรวมแล้ว การจัดการสินค้าคงคลังอย่างเป็นระบบใน Dynamics 365 Business Central ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริการลูกค้า และประสิทธิภาพทางการเงิน โดยมอบเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพระดับสินค้าคงคลัง ปรับปรุงกระบวนการ และปรับให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งท้ายที่สุดจะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและความสามารถในการทำกำไร

ประโยชน์ของการมี Warehouse Management (การจัดการคลังสินค้า)