
6 Management in ERP D365BC Cost-effective
6 การจัดการใน ERP Dynamics 365 Business Central ที่ช่วยให้ธุรกิจบริหารต้นทุนได้อย่างคุ้มค่า
การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเลือกเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการต้นทุนได้ดีจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ และสำหรับหลายๆ
องค์กร Microsoft Dynamics 365 Business Central เป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สามารถทำให้การบริหารต้นทุนเป็นเรื่องที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบ ERP หากนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน
และสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง
Dynamics 365 BC มาพร้อมกับเครื่องมือสำหรับธุรกิจที่จะช่วยให้คุณ ได้มองเห็นภาพรวมของต้นทุน, ควบคุมค่าใช้จ่าย, ลดการสูญเสีย, และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนและสร้างกำไรได้จริง อย่างไรก็ตาม
การใช้งานต้องมี การวางแผนที่ดี และต้องนำไปใช้ให้เหมาะกับโครงสร้างธุรกิจ
1. การจัดการสินค้าคงคลัง บริหารสินค้าหมุนเวียนไว ลดความเสี่ยงของค้างสต็อก
การรักษาสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย
โดยเฉพาะเมื่อมีการหมุนเวียนสินค้าที่หลากหลาย
การสามารถติดตามสต็อกได้แบบเรียลไทม์และใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการจัดการ
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้หลักการ FIFO หรือการคำนวณที่เหมาะสม
ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดการลงทุนในสินค้าคงคลังโดยไม่จำเป็นได้
1.1 ลดความเสี่ยงจากการลงทุนเกินความจำเป็นในสินค้าคงคลัง
การมีสินค้าคงคลังที่มากเกินไปจะทำให้เกิดต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้า
และอาจทำให้เกิดการสูญเสียจากสินค้าค้างสต็อกที่ไม่สามารถขายได้
ระบบการจัดการสินค้าคงคลังช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม
1.2 ใช้ข้อมูลจาก D365BC
เพื่อคาดการณ์ความต้องการ และวางแผนสินค้าคงคลัง
การใช้ข้อมูลจากระบบ ERP ในการคาดการณ์ความต้องการของสินค้าในอนาคตช่วยให้สามารถสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ
เพื่อลดการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นหรือการขาดแคลนสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อเกินไปหรือการขาดแคลน
1.3 เพิ่มความคล่องตัวในการจัดการสินค้าคงคลัง
การรู้ข้อมูลสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์
ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตัดสินใจที่รวดเร็วในการเติมสินค้าหรือหยุดการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยม
ซึ่งช่วยลดต้นทุนในด้านการเก็บรักษาและการเสียสินค้าค้างสต็อก
1.4 ปรับปรุงกระบวนการหมุนเวียนสินค้าภายในคลัง
การใช้หลักการต่างๆ เช่น FIFO (First In, First Out) หรือ
LIFO (Last In, First Out) ในการจัดการสินค้าคงคลังช่วยให้สินค้ามีการหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ
และลดการเสื่อมสภาพหรือการหมดอายุของสินค้าก่อนที่จะสามารถนำไปขายได้
ซึ่งทำให้ไม่สูญเสียต้นทุนในการเก็บสินค้าที่ไม่สามารถขายได้
1.6 การลดค่าใช้จ่ายจากการผลิตเกินความต้องการ
การมีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินค้าคงคลังช่วยให้ธุรกิจสามารถคำนวณความต้องการการผลิตในแต่ละช่วงเวลาได้แม่นยำ และไม่ผลิตสินค้ามากเกินไปจนทำให้เกิดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
ด้านการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพจึงไม่เพียงแค่ลดต้นทุนโดยตรงจากการจัดการสินค้าคงคลังให้เหมาะสม
แต่ยังสามารถช่วยลดต้นทุนที่เกิดจากการบริหารทรัพยากรและการขนส่ง
รวมถึงการบริหารกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องด้วย
2. การควบคุมต้นทุนการผลิต วางแผนการผลิตให้เหมาะสม
ลดต้นทุนแฝง
สำหรับธุรกิจที่มีการผลิตสินค้า
การวางแผนและติดตามกระบวนการผลิตเป็นเรื่องสำคัญในการลดต้นทุน ต้องมีการบันทึกข้อมูลต่างๆ
ในทุกขั้นตอนช่วยให้การคำนวณต้นทุนได้อย่างละเอียด และป้องกันการสูญเสียทรัพยากร หรือการใช้วัสดุเกินความจำเป็น
2.1 คำนวณต้นทุนการผลิตที่แม่นยำ
ระบบ ERP สามารถคำนวณต้นทุนการผลิตโดยอัตโนมัติจากข้อมูลต่างๆ
เช่น วัสดุที่ใช้ในการผลิต, ค่าแรงงาน, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำให้สามารถคำนวณต้นทุนจริงในแต่ละกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ
ลดความเสี่ยงจากการคำนวณผิดพลาดและช่วยให้สามารถวางแผนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น
2.2 ติดตามการใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิต
ระบบ ERP ช่วยให้สามารถติดตามการใช้วัสดุและทรัพยากรในกระบวนการผลิตได้แบบเรียลไทม์
ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
และป้องกันการสูญเสียจากการใช้วัสดุเกินหรือไม่เหมาะสม
การติดตามนี้ยังช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตและลดต้นทุนโดยรวม
2.3 บริหารจัดการกำลังการผลิต
การวางแผน และบริหารกำลังการผลิตเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมต้นทุน
โดย Dynamics
365 BC การคำนวณ และวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดหรือการสั่งซื้อ
ช่วยหลีกเลี่ยงการผลิตเกินหรือการขาดแคลน ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเก็บสต็อกสินค้า อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบ
2.4 ควบคุมการใช้ระยะเวลาในการผลิต
ระบบ ERP สามารถติดตาม บันทึกเวลาที่ใช้ในการผลิตแต่ละขั้นตอน
ทำให้สามารถระบุปัญหาที่เกิดจากการใช้เวลามากเกินไป และปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เร็วขึ้นได้
การลดเวลาการผลิตไม่เพียงแค่ช่วยลดต้นทุนค่าแรงงาน
แต่ยังสามารถเพิ่มความสามารถในการผลิตได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่เท่ากัน
2.5 วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิต
สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
เกี่ยวกับการผลิต เช่น ปริมาณในการผลิตแต่ละครั้ง, การใช้วัสดุ-วัตถุดิบ, และการใช้แรงงาน ให้คุณได้มองเห็นภาพรวมในงานผลิตช่วยให้สามารถระบุจุดที่เป็นคอขวดในกระบวนการผลิต
และทำการปรับปรุงแก้ไข สร้างแผนกำลังปลิตได้ทันที
เพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
3. การบริหารการเงิน
ติดตามกระแสเงินสดแบบเรียลไทม์ ลดปัญหาสภาพคล่อง
การเข้าใจภาพรวมของกระแสเงินสด
และการบริหารบัญชีในทุกด้าน ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจทางการเงินได้อย่างรอบคอบ
การบันทึกการเงินและการคำนวณข้อมูลที่ถูกต้องทำให้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถมองข้ามได้
3.1 การควบคุมงบประมาณ และติดตามค่าใช้จ่าย
ระบบสามารถตั้งงบประมาณและติดตามค่าใช้จ่ายได้แบบเรียลไทม์
ช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมการใช้จ่ายและลดความเสี่ยงจากการใช้จ่ายเกินงบประมาณ
3.2 การจัดการกระแสเงินสด
การบริหารกระแสเงินสดทำให้ธุรกิจสามารถติดตามการรับและการจ่ายเงินได้ง่ายขึ้น
ช่วยในการตัดสินใจที่ดีเกี่ยวกับการลงทุนหรือการใช้จ่ายในอนาคต
3.3 การวิเคราะห์ และสรุปรายงานทางการเงิน
ใช้งานฟีเจอร์ในการสร้างรายงานทางการเงิน
และการวิเคราะห์ต้นทุนที่สามารถช่วยในการตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล เช่น
การทำรายงานงบกำไรขาดทุน, งบดุล, และการวิเคราะห์สภาพคล่องของธุรกิจ
3.4 การควบคุมสินค้าคงคลังและต้นทุนการผลิต
ระบบช่วยให้สามารถติดตามสต็อกสินค้าและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตได้
ซึ่งช่วยในการควบคุมต้นทุนการผลิตและป้องกันการเก็บสต็อกที่เกินจำเป็น
3.5 จัดการติดตามบัญชีหนี้สิน และบัญชีเจ้าหนี้ที่มีประสิทธิภาพ
วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า ช่วยให้เห็นสถานะทางการเงินแบบเรียลไทม์
ทำให้สามารถกำหนดเวลาชำระเงินเจ้าหนี้ตามงบประมาณที่มี
และหลีกเลี่ยงค่าปรับหรือดอกเบี้ยจากการจ่ายล่าช้า ลดปัญหาหนี้เสีย ธุรกิจมีสภาพการเงินที่คล่องเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจต่อไป
3.6 การลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรม
ด้วยระบบที่สามารถตรวจสอบและควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างละเอียด
สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการทุจริต และข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรม
4. การจัดการการสั่งซื้อ ควบคุมการสั่งซื้อ
ลดต้นทุนจากคำสั่งซื้อที่ไม่จำเป็น
การควบคุมการสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการจัดซื้อ
แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อได้ดีขึ้น
ด้วยข้อมูลที่สามารถใช้พยากรณ์ความต้องการ และวางแผนการสั่งซื้อได้ล่วงหน้า
4.1 การคำนวณราคาต้นทุนโดยอัตโนมัติ
ระบบช่วยคำนวณราคาต้นทุนของสินค้าที่สั่งซื้อโดยอัตโนมัติ
ธุรกิจสามารถทราบต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าแต่ละรายการ และคำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำ
รวมทั้งช่วยให้การตั้งราคาขายหรือการวางแผนการเงินมีความถูกต้องและคุ้มค่ามากขึ้น
4.2 การเลือกซัพพลายเออร์ที่มีราคาคุ้มค่า
เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขจากซัพพลายเออร์หลายรายได้อย่างง่ายดาย
ช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกซัพพลายเออร์ที่มีราคาคุ้มค่า และเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด
4.3 ควบคุมสต็อกสินค้า ลดการสั่งซื้อสินค้าที่เกินจำเป็น
ระบบช่วยในการจัดการสต็อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพ
โดยการติดตามสินค้าคงคลังในแบบเรียลไทม์
และช่วยลดความเสี่ยงจากการสั่งซื้อมากเกินไปหรือขาดแคลนสินค้า
ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเก็บสต็อก และจัดการกับสินค้าที่หมดอายุ
4.4 การบริหารจัดการคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพ
ระบบช่วยให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น
โดยการใช้ข้อมูลย้อนหลังในการคาดการณ์ความต้องการสินค้า รวมถึงการออกรายงานการสั่งซื้อที่สามารถช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างแม่นยำ
ช่วยหลีกเลี่ยงการสั่งซื้อซ้ำหรือเกินความจำเป็น
5. การติดตามต้นทุนโครงการ
ติดตามทรัพยากรและค่าใช้จ่ายในโครงการ ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
บางครั้งการบริหารต้นทุนในโครงการสามารถกลายเป็นเรื่องยุ่งยากได้
โดยเฉพาะเมื่อมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง
การสามารถติดตามและประเมินค่าใช้จ่ายได้ในแต่ละระยะเวลา
ช่วยให้การควบคุมต้นทุนในโครงการสามารถทำได้ในแบบที่ไม่ทำให้เกิดการเกินงบประมาณ
5.1 การติดตามต้นทุนแบบเรียลไทม์ (Real-Time
Cost Tracking)
Dynamics 365 Business Central ช่วยให้สามารถติดตามต้นทุนของโครงการได้แบบเรียลไทม์
ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการใช้วัสดุ, ค่าแรง, หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการโครงการสามารถดูภาพรวมของต้นทุนที่เกิดขึ้นได้ทันที
และสามารถปรับแผนการดำเนินงานได้ตามสถานการณ์
5.2 แยกงานในแต่ละโครงการ หรือโปรเจค
การแยกจัดการงานต่างๆ ในแต่ละโครงการทำให้คุณสามารถมองเห็นรายละเอียดต้นทุนนั้นๆ
ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เกี่ยวกับแรงงาน, วัสดุ,
หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ และตัดสินใจที่ดีขึ้นในการควบคุมต้นทุน
5.3 การตั้งงบประมาณโครงการ
ระบบช่วยในการตั้งงบประมาณสำหรับโครงการแต่ละโครงการและติดตามความคืบหน้าของโครงการตามงบประมาณที่กำหนด
หากมีการบันทึกเปลี่ยนแปลงข้อมูลจากงบประมาณ สามารถตั้งค่าให้ระบบจะแจ้งเตือนทันที
หรือสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังเพื่อตรวจสอบเส้นทางการใช้ค่าใช้จ่ายได้อย่างมีหลักฐานข้อมูล
ลดความเสี่ยงเกิดทุจริต และสามารถปรับแผนการจัดการต้นทุนงานโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.4 การคำนวณต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
การคำนวณ และแบ่งปันต้นทุนที่เกิดขึ้นจากโครงการไปยังแผนกต่างๆ
หรือกิจกรรมเฉพาะในโครงการ
ซึ่งช่วยในการประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนในแต่ละส่วนของโครงการ
และสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม
5.5 การจัดการและติดตามการชำระเงิน
จัดการการชำระเงินและการออกใบแจ้งหนี้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการได้อย่างแม่นยำ
ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการจ่ายเงินในแต่ละโครงการและสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น
5.6 การบริหารจัดการความเสี่ยงของโครงการต่าง ๆ
ระบบช่วยในการระบุและติดตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในโครงการ
เช่น ความล่าช้าในการดำเนินงานหรือค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่คาดการณ์
ซึ่งช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นทุนเกินงบประมาณ
การติดตามต้นทุนโครงการใน Dynamics 365
Business Central ทำให้ธุรกิจสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และช่วยให้โครงการดำเนินไปได้ตามแผน โดยไม่เกินงบประมาณที่กำหนดไว้.
6. การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ ลดต้นทุนจากกระบวนการผิดพลาด
การรายงาน และการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากทุกส่วนของธุรกิจช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจน
ด้วยการมีข้อมูลที่แม่นยำอยู่แล้วนั้นทำให้การตัดสินใจปรับลดต้นทุน
และสร้างผลกำไรได้ดีอีกด้วย
ทั้งนี้การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการบริหารต้นทุนสามารถช่วยให้ธุรกิจลดการสูญเสียและทำให้การลงทุนในทรัพยากรมีความคุ้มค่ามากขึ้น
ทุกๆ
ฟังก์ชันที่กล่าวถึงนั้นล้วนแต่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้
แต่สิ่งที่สำคัญคือการปรับแต่งให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจของแต่ละองค์กร
6.1 การวิเคราะห์ต้นทุนแบบเรียลไทม์
แสดงข้อมูลต้นทุนได้แบบ Real-Time ทำให้ธุรกิจสามารถติดตามแนวโน้มของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
และสามารถตัดสินใจปรับแผนการดำเนินงานได้ทันที เรียกดูรายละเอียดต้นทุนในแต่ละหมวดหมู่
เช่น ค่าแรง, วัสดุ, ค่าขนส่ง
หรือค่าใช้จ่ายทางการเงิน เพื่อระบุจุดที่สามารถลดต้นทุนได้
6.2 คาดการณ์ทางการเงิน
ใช้ข้อมูลจากการขาย,
การสั่งซื้อ และต้นทุนในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มทางการเงินในอนาคตช่วยให้สามารถวางแผนงบประมาณล่วงหน้า
และปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
หรือเพิ่มการลงทุนในส่วนที่ให้ผลตอบแทนสูง
6.3 การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อ และซัพพลายเชน
ระบบช่วยให้สามารถเปรียบเทียบราคาจากซัพพลายเออร์หลายราย
และเลือกซื้อจากผู้ให้บริการที่มีราคาคุ้มค่าและมีเงื่อนไขที่ดีที่สุด ใช้ข้อมูลแนวโน้มการใช้วัตถุดิบและสินค้าคงคลัง
เพื่อลดต้นทุนในการสต็อกสินค้าเกินความจำเป็น
หรือหลีกเลี่ยงการขาดแคลนวัตถุดิบที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิต
6.4 การจัดการต้นทุนการผลิต (Manufacturing
Cost Management)
ใช้ข้อมูลจากกระบวนการผลิตเพื่อตรวจสอบวัตถุดิบที่ใช้,
เวลาการทำงานของเครื่องจักร และประสิทธิภาพแรงงานคำนวณต้นทุนต่อหน่วยสินค้าเพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของแต่ละกระบวนการ
และปรับเปลี่ยนการผลิตให้ลดต้นทุนได้มากที่สุด
6.5 บริหารจัดการกระแสเงินสด และงบประมาณที่ตั้งไว้
ติดตามสถานะทางการเงิน เช่น รายรับ
รายจ่าย หนี้สิน และบัญชีลูกหนี้ เพื่อให้สามารถวางแผนการใช้เงินสดได้ดีขึ้นลดความเสี่ยงในการขาดสภาพคล่อง
หรือการใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้
6.6 สรุปรายงานวิเคราะห์ต้นทุนในงานต่างๆ
ของธุรกิจ
ใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และรายงานที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ
เช่น รายงานต้นทุนสินค้า,
รายงานค่าใช้จ่ายแยกตามแผนก หรือรายงานผลกำไรจากโครงการ
หรือต่อยอดการสร้างรายงาน Power BI ที่เชื่อมต่อเข้ากับ
ERP Microsoft Dynamics 365 Business Central เพื่อสร้างแดชบอร์ดที่ช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมของต้นทุนในงานต่างๆ
สามารถสร้างหน้ารายงานหัวข้อเฉพาะงานต่างๆ เช่น ภาพรวมต้นทุนการผลิต, ภาพรวมต้นทุนงานโครงการ,
ภาพรวมต้นทุนสินค้าคงคลัง
และอื่นๆ
การใช้ข้อมูลบน ERP
Microsoft Dynamics 365 Business Central ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
โดยใช้ข้อมูลต้นทุนที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ทำให้สามารถลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น, วางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ
BIGWORK ผู้ให้บริการติดตั้งระบบ ERP Microsoft Dynamics 365 Business Central
โทร. 062-6198619
e-mail : marketing@bigworkthailand.com